อยากเป็นนักมวยอาชีพ ในเบื้องต้นต้องฝึกอะไรบ้าง

มวยไทย,มวยไทยออนไลน์,มวยหู,ไฮไลท์มวย,เรตมวย,ราคามวย,มวยตู้

มวยไทย,มวยไทยออนไลน์,มวยหู,ไฮไลท์มวย,เรตมวย,ราคามวย,มวยตู้

สำหรับจุดหมายในการประกอบอาชีพของแต่ละคนต่างก็มีความฝันที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะอยากเป็นหมอ เป็นครู เป็นพยาบาล เป็นวิศวะหรือว่าเป็นอะไรอีกมากมาย แต่บอกได้เลยว่าถ้าเกิดใครฝันที่จะอยากเป็นนักมวยอาชีพแล้วฝันของคุณได้ไม่ใช่ฝันดีเล็ก แต่เป็นฝันที่ใหญ่มากและเป็นฝันที่มีความเสี่ยงและความกดดันต้อนรับคุณอยู่ตลอดเวลา สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นนักมวยหรือว่าเป็นนักกีฬาที่ได้รับการฝึกมาอย่างต่อเนื่อง และมีความต้องการที่จะอยากต่อยมวยหรืออยากที่จะเริ่มต้นการเป็นนักมวย เราก็อยากให้อ่านบทความนี้ซึ่งจะเป็นเบื้องต้นในการฝึกของนักมวยอาชีพเกือบทุกคนถ้าเกิดคุณฝึกตามนี้ได้แล้วแล้วก็การที่คุณจะได้เป็นนักมวยนั้นอยู่ไม่ไกลแน่นอน

1.ดันพื้น

การออกกำลังกายสุดฮิตในก็คือการดันพื้นโดยการดันพื้นเป็นการที่จะทำให้คุณสามารถได้กล้ามเนื้อส่วนหัวไหล่และโซนหน้าอก การดันพื้นเป็นการสร้างความแข็งแกร่งและเป็นการทำให้กล้ามเนื้อมีความอดทนและทนทานมากขึ้น ถึงแม้ท่าดันพื้นที่เป็นท่าที่ง่ายแต่เมื่อคุณได้ขยับมือสองข้างในรูปแบบต่างๆ แล้วการใช้กล้ามเนื้อก็จะมีการใช้กล้ามเนื้อในปริมาณที่ต่างกั นรวมไปถึงการเปลี่ยนจุดออกแรงบนมือ จะทำให้คุณโดนใช้งานกล้ามเนื้อในบริเวณที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงความสูงในการดันพื้นอีก ซึ่งก็มีปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้การดันพื้นเป็นหนึ่งในกีฬาที่นักมวยอาชีพสามารถนำมาใช้วัดความแข็งแรงได้

2.ดึงข้อ

สำหรับการดึงข้อเป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างยากและต้องใช้พละกำลังค่อนข้างเยอะเนื่องจากการเป็นใช้แรงที่ข้อมือและข้อแขนรวมไปถึงหัวไหล่ในการดึงน้ำหนักของทั้งตัวขึ้นเพื่อให้ตัวขึ้นสูงขึ้น โดยการดึงข้อเป็นการออกกำลังกายที่ค่อนข้างหนักหน่วงและถ้าเกิดนักมวยอาชีพคนไหนสามารถดึงข้อได้เยอะก็แสดงว่ามีความแข็งแรงทนทานมากเลยพอสมควร ในการดึงข้อแบบนับจำนวน จะแสดงว่าคนนั้นมีสภาพร่างกายเป็นอย่างไรมีสมรรถภาพร่างกายแข็งแรงขนาดไหน

3.กระโดดตบ

การกระโดดตบเป็นการเผาผลาญพลังงานไปในตัวด้วยการกระโดดตบเป็นการ cardio ที่ดีเยี่ยมสำหรับนักมวยอาชีพเนื่องจากมวยไทยมีความจำเป็นที่จะต้องใช้การหลบเลี่ยงและการกระโดดที่เกี่ยวข้องกับฟุตเวิร์คอยู่ตลอดเวลาบางทีบางค่ายก็อาจจะไม่ได้ใช้การกระโดดตบแต่ใช้เป็นการกระโดดเชือกแทน ซึ่งการกระโดดเชือกก็จะได้ความว่องไวกว่าและได้ฟุตเวิร์คที่รวดเร็วกว่าทางนี้ก็แล้วแต่ค่ายแต่ละค่ายว่าจะมีวิธีการฝึกให้กับนักมวยอาชีพของเขาอย่างไร

4.แพลงค์

แพลงค์ หรือ Plank หมายถึงการตั้งศอกแล้วทำให้ตัวลากไปกับพื้นโดยใครสามารถแพลงค์ได้มากที่สุดก็แสดงว่ามีสมรรถภาพทางร่างกายดีเยี่ยมได้ แม้แพลงค์มันอาจจะดูเป็นท่าที่สามารถทำได้ง่ายแต่เมื่อเราทำจริงแล้วจะทำได้ยากมากและส่วนมากก็ไม่สามารถทำเกิน 5 วินาทีสักคน ซึ่งสำหรับใครที่น้ำหนักเยอะแต่อยากจะลองทำแพงก็แนะนำให้ยืดแขนเหมือนท่าดันพื้นก่อนเพียงแต่ว่าไม่ต้องทำการดันพื้นให้ยืดแขนเอาไว้อย่างนั้นแล้วค้างไว้ เมื่อเริ่มแข็งแรงขึ้นแล้วก็ให้ทำการใช้ข้อศอกยันเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ

5.วิ่งสลับ

สำหรับการวิ่งสลับเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยในเรื่องของความคล่องแคล่ว คล่องตัวและการเอียงตัวไปมาซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการต่อยมวยมากๆ การวิ่งสลับนั้นมักจะฝึกกันเป็นทีมเพื่อความสนุกสนานและความสามัคคีรวมไปถึงความพอเพียงในการฝึกจะได้ไม่ต้องฝึกแยกหลายรอบ เพื่อดูสมรรถภาพนักมวยอาชีพแต่ละคน ว่ามีสภาพอย่างไร ในจุดไหนที่ควรจะต้องแก้ไขและในจุดไหนที่ควรจะต้องสนับสนุนเพื่อให้เป็นจุดเด่นของตัวเขาเอง

6.ซิทอัพ

ซิทอัพเป็นท่าที่ช่วยให้กล้ามหน้าท้องชัดขึ้นมาโดยคนส่วนมากจะมีกล้ามหน้าท้องกันอยู่แล้วเพียงแต่ว่าจะมีชั้นไขมันบังเอาไว้ ดังนั้นการซิทอัพจึงเป็นการที่จะทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องนั้นโผล่มาได้ง่ายดายขึ้น ส่วนไขมันที่ใบหน้าท้องก็ต้องเป็นหน้าที่คุณที่จะเผาผลาญพลังงานไขมัน

7.ลุกนั่ง

การลุกนั่งเป็นการออกกำลังกายที่ใช้พลังงานเยอะและสามารถเผาผลาญผ่านพลังงานได้ค่อนข้างมาก โดยการลุกนั่งเป็นการใช้น้ำหนักตัวลงไปที่ขาแล้วทำการนั่งยองเหมือนนั่งเก้าอี้แต่ว่าจะไม่มีการพิงหรืออะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น จากนั้นก็ทำการลุกขึ้นทำแบบนี้ซ้ำไป 10 รอบทั้งหมด 30 เซ็ท จะทำให้คุณสามารถเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ดีเยี่ยมและไม่กลับมาอ้วนอีกแน่นอนเนื่องจากท่านี้เป็นท่าที่มีความเผาผลาญดีเยี่ยมมาก

ซึ่งในการฝึกเป็นนักมวยอาชีพนั้นยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์และความกดดันซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในหมู่นักมวยซึ่งถ้าคุณอยากที่จะเป็นนักมวยอาชีพจริงๆแล้วก็ควรที่จะรับความเสี่ยงในตรงนั้นได้และการเป็นนักมวยที่ดีคุณไม่ควรเป็นคนที่หยิ่งยโสหรือว่ามีนิสัยที่ไม่ให้เกียรติผู้อื่นควรที่จะเป็นคนที่มีความนอบน้อมถ่อมตนซึ่งจะทำให้มีคนชอบมวยไทยมากขึ้นและกลับมาเป็นกระแสหลักอีกครั้ง

ใส่ความเห็น